Stars Classic

Sunday, February 13, 2011

เฮลโล คิตตี้ Hello Kitty รากฐานของวัฒนธรรม J Pop รุ่นแรก



Hello Kitty รุ่นแรก
กระเป๋าใส่เศษสตางค์รุ่นแรกที่เปิดตัว

Hello Kitty  (หรือชื่อจริงคิตตี้ไวท์) เป็นตัวสมมติที่ผลิตขึ้นมาโดยบริษัทญี่ปุ่น Sanrio ออกแบบเป็นครั้งแรกโดย ยูโกะ ชิมิซึ . บุคลิกลักษณะออกแนวน่ารักเป็นหลักตามวัฒนธรรมพ๊อพของญี่ปุ่น ร่างภาพเป็นแมวญี่ปุ่นหางสั้นแบบกระต่าย เพศเมียสีขาว กับโบว์สีแดง ของที่ออกแบบ Hello Kitty และนำมาเปิดตัวเป็นครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่นเป็นกระเป๋าสตางค์เหรียญไวนิล ออกมาในปี 2517 และเผยแพร่สู่ประเทศสหรัฐอเมริกาในปี 2519 การเปิดตัวครั้งแรกนี้มาภายใต้สายผลิตภัณฑ์ตราสินค้าของบริษัท Sanrio  ซึ่งผลิตภัณฑ์ต่างๆของ Hello Kitty ยังคงมีการพัฒนาและทำออกมาจำหน่ายจนกระทั่งปัจจุบัน
ท่อไอเสียทำเป็นรูป Hello Kitty
เครื่องตัดหญ้า
จักรเย็บผ้า
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา Hello Kitty เป็นเครื่องหมายการค้าที่แพร่หลายทั่วโลกและพัฒนาเป็นสินค้าจากการออกใบอนุญาตเป็นมูลค่าเพิ่มมากขึ้นตั้งแต่ราคา 1 เหรียญ จนถึง 5 พันล้านเหรียญเป็นประจำทุกปี 


แม้ว่าจะมุ่งการตลาดเน้นไปที่วัยรุ่นหญิงก่อนโตเป็นผู้ใหญ่เป็นหลัก หากแต่กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีรูปออกแบบ Hello Kitty มีตั้งแต่กระเป๋าสตางค์ สติกเกอร์ ชุดปากกา เครื่องปิ้งขนมปัง, โทรทัศน์ เสื้อผ้า เครื่องมือใช้สำหรับนวด อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และยังมีกลุ่มผู้ชื่นชอบเป็นสาวกซึ่งโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทวีปเอเชีย ที่นำเอา Hello Kitty มาประดับตกแต่งรถ กระเป๋า เครื่องประดับและสินค้าอุปโภคบริโภคไฮเอนด์อื่น ๆ อีกมากมาย 
งานแต่งงานด้วยธีม Hello Kitty
ภาพเคลื่อนไหวของ Hello Kitty ที่มุ่งไปที่กลุ่มเป้าหมายเด็กๆยังได้รับการผลิตเพิ่มเติมอีกด้วย ดังตัวอย่างของผลิตภัณฑ์ที่จัดอยู่ในกลุ่มนี้รวมถึงตุ๊กตา สติกเกอร์ การ์ดอวยพร เสื้อผ้า อุปกรณ์เสริม อุปกรณ์การเรียน จานอาหารและเครื่องใช้ในบ้าน           


สเก็ตบอร์ด
ต้นคริสต์มาส
ชุดรับประทานข้าว
ไข่รูป Hello Kitty
สายการบิน EVA Airways
บ้านสุนัข
วิดิโอเกม
Thumb Drive
ของตกแต่งสำหรับวัยรุ่น
รถยนต์สำหรับวัยหนุ่มสาว
น้ำมันเครื่อง
มอเตอร์ไซค์
เครื่องสำอาง
เครื่องพิมพ์
ปืนไรเฟิล
อ่างอาบน้ำเด็ก
รูปปั้น Hello Kitty ร้องไห้
กีตาร์ไฟฟ้า
กางเกงในผู้ชาย Hello Kitty!
สตาร์วอร์ชุด Hello Kitty
เบียร์ออกแบบเป็น Hello Kitty
ที่ใส่กระดาษชำระม้วน
ปราสาทสวนสนุก Hello Kitty
แต่งหน้าด้วย Hello Kitty
ซุปเปอร์แมนในชุด Hello Kitty
รถยนต์หรูตกแต่งแบบ Hello Kitty
Hello Kitty ในโฆษณาของร้านเซเว่นอีเลเว่น ญี่ปุ่น
เครื่องชอตไฟฟ้ามือถือ
ชุดแต่งงาน


แกรนด์เปียโน
  

ดอริส เดย์ Doris Day - Que Sera Sera What Ever Will Be, Will Be

ฟังผลงานเพลงของเธอได้จาก link ของเพลงข้างล่างนี้

นามที่ใช้ในการแสดง Doris Day (นามจริง Doris Mary Ann Kappelhoff)) เกิดเมื่อวันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2465 เป็นนักร้องนักแสดงชาวอเมริกัน และเป็นนักรณรงค์ต่อสู้การทารุณสัตว์อย่างเปิดเผยหลังเกษียณตัวเองจากธุรกิจการแสดง 

อาชีพบันเทิงของเธอเริ่มขึ้นในช่วงปีพ.ศ. 2483 ด้วยการเป็นนักร้องของวงดนตรี และห้าปีต่อมา เธอได้เปิดตัวผลงานเพลง "Sentimental Journey" จากนั้นถัดมาอีก 3 ปีจึงเริ่มปรากฏตัวในงานภาพยนตร์เรื่องแรกของเธอชื่อ "Romance on High Seas" ตลอดช่วงอาชีพบันเทิงของเธอนั้น เธอแสดงในภาพยนตร์ทั้งสิ้น 39 เรื่อง และมีเพลงที่ร้องไว้กว่า 650 เพลง นอกเหนือจากนี้ เธอยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ และยังได้รับรางวัลทั้งลูกโลกทองคำและรางวัลแกรมมี่ ตลอดจนในปี 2532 ได้รับ รางวัล Cecil B. DeMille สำหรับความสำเร็จตลอดช่วงชีวิตสำหรับงานภาพยนตร์

จากการจัดอันดับล่าสุดเมื่อปี 2552 ของบ็อกซ์ออฟฟิศแห่งดารายอดนิยมตลอดกาล เธอถูกจัดอยูในลำดับต้นๆ และอยู่ในอันดับที่หกจากจำนวนนักแสดงสิบคนของบ็อกซ์ออฟฟิศ (ทั้งชายและหญิง)


"Que Sera Sera"
"Secret Love"
"If I Give My Heart to You"
"When I Fall in Love"


แอกเนส ชาน Agnes Chan - Chinese Nightingale

ฟังผลงานเพลงของเธอได้จาก link ข้างล่างนี้

Agnes Chan หรือชื่อเต็ม Agnes Chan Miling Kaneko Chan เป็นนักร้องเพลงพ๊อพ และมีชื่อเรียกอยู่ในกลุ่มดาราศิลปินชาวต่างชาติที่มีทั้งพรสวรรค์และชื่อเสียงในประเทศญี่ปุ่นว่า tarento gaijin จบการศึกษาคุรุศาสตร์ดุษฎีบัณฑิต จากประเทศญี่ปุ่น และยังเป็นอาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยที่ญี่ปุ่น นอกจากนี้เธอยังเขียนบทความและนวนิยายอีกด้วย 

นับตั้งแต่ปี 2531 แอกเนสได้รับการแต่งตั้งเป็นทูตสันถวไมตรีขององค์การยูนิเซฟ และยังทำงานร่วมกับคณะกรรมการชาวญี่ปุ่นเพื่อยูนิเซฟ ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนแต่ไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับองค์การยูนิเซฟสากล

Agnes Chan เริ่มร้องเพลงและเล่นกีต้าร์ในขณะที่เธอเรียนอยู่ชั้นมัธยมต้นในฮ่องกง อันเป็นงานอาสาสมัครสำหรับกิจกรรมระดมทุน เธอมีโอกาสได้บันทึกเพลงชื่อว่า'"Circle Game" ของ Joni Mitchell ร่วมกับ Irene Chan ซึ่งเป็นพี่สาวของเธอ และเป็นนักแสดง ต่อมาได้กลายเป็นเพลงยอดนิยมในฮ่องกง เธอเริ่มมีชื่อเสียงทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ผ่านภาพยนตร์ของ Chang Cheh หลายต่อหลายเรื่อง รวมทั้งเรื่อง Young People and The Generation Gap

ภายหลังถูกชักนำโดยนักร้องนักแต่งเพลงชาวญี่ปุ่นนามว่า Masaaki Hirao ให้ไปยังประเทศญี่ปุ่น ในปีพ.ศ. 2515 เพื่อบันทึกเพลงเป็นภาษาญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกชื่อเพลงว่า "Poppy Flower" ด้วยเสียงร้องที่ใสชัดเจน ประกอบกับใบหน้าที่ดูน่ารักในแบบญี่ปุ่น อีกทั้งภาษาญี่ปุ่นที่ร้องนั้นยังแปร่งหูอยู่บ้าง ทำให้เธอได้รับความนิยมในฐานะเป็น 'teen idol ่

ตามมาด้วยเพลงซิงเกิ้ล "Splendor in the Grass" ซึ่งได้รับรางวัล "Rookie of the Year" และเป็นรางวัลกรังด์ปรีซ์จากประเทศญี่ปุ่น นอกจากนี้เธอยังสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนอเมริกันในประเทศญี่ปุ่นในปี พ.ศ. 2516










Sunday, January 30, 2011

จูลี่ แอนดริวส Julie Andrews -Mary Poppins and "Maria" in the Sound of Music


จูเลีย เอลิซาเบธ แอนดริวส (เกิดเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2478) เป็นทั้งนักร้อง นักแสดงละครเวที นักแสดงภาพยนตร์ชาวอังกฤษ ที่มีชื่อเสียงจากละครบรอดเวย์เรื่อง My Fair Lady (หรือชื่อไทยว่า บุษบาริมทาง ปี พ.ศ.2499 ) และ Camelot (ปี พ.ศ. 2503) และภาพยนตร์เพลง เรื่อง Mary Poppins (ปี พ.ศ. 2507 ) และ The Sound of Music (หรือชื่อไทย มนต์รักเพลงสวรรค์ ปี พ.ศ. 2508) จูลี่ แอนดริวส ได้รับรางวัลการแสดงมากมาย ทั้งรางวัลออสการ์ รางวัลเอมมี รางวัลแกรมมี รางวัลลูกโลกทองคำ รางวัลมหาชนนิยม รางวัลโลกแห่งโรงละคร รางวัลนักแสดงอาชีพ รางวัลอะแคเดอมี รางวัลบาฟตา
จูลี่ เอลิซาเบธ แอนดริวส มีชื่อเดิมว่า จูลี่ เอลิซาเบธ เวลส์ เกิดในครอบครัวนักแสดง ที่เซอร์เรย์ ประเทศอังกฤษ เข้าสู่วงการแสดงครั้งแรกเมื่ออายุ 10 ปี ในการแสดงของครอบครัว และเริ่มร้องเพลงโอเปร่าเมื่ออายุ 12 ปี ที่ลอนดอน

เธอเริ่มแสดงบรอดเวย์ ที่นิวยอร์กเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2497ก่อนจะถึงวันเกิดอายุครบ 19 ปี และได้ร่วมการแสดงของบิง ครอสบี ในปีถัดมา ในปี 2499 เธอได้รับบทนำในละครบรอดเวย์เรื่อง My Fair Lady (บุษบาริมทาง) ดัดแปลงจากบทประพันธ์ของ จอร์จ เบอร์นาร์ด ชอว์ คู่กับ เร็กซ์ แฮริสัน รับบทซินเดอเรลล่า ในละครโทรทัศน์กินเวลาฉาย 60 นาที ของร็อดเจอร์ส และแฮมเมอร์สไตน์ แสดงสดทางสถานี ซีบีเอส ในปี 2500 และละครบรอดเวย์เรื่อง Camelot ดัดแปลงจากตำนานเรื่องกษัตริย์อาเธอร์ รับบทราชินีกีเนเวียร์ คู่กับ ริชาร์ด เบอร์ตัน ในปี 2503

เมื่อมีการนำ My Fair Lady มาสร้างภาพยนตร์ในปี 2506 ปรากฏว่า วอร์เนอร์ บริษัทผู้สร้างตัดสินใจไม่ให้จูลี่รับบทนำ เพราะคิดว่าเธอไม่มีชื่อเสียงเพียงพอ และเลือกให้ ออดรี เฮพเบิร์น เป็นผู้แสดง โดยให้นักร้องอาชีพเป็นผู้ขับร้องเพลงแทน จูลี่ แอนดริวส หันไปแสดงภาพยนตร์เรื่อง Mary Poppins สร้างโดยดิสนีย์ เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกแทน ปรากฏว่าภาพยนตร์ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง จูลี่ แอนดริวส ได้รับรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ทั้งรางวัลออสการ์ และรางวัลลูกโลกทองคำ ในปีนั้น
ในปีต่อมา เธอได้รับบทนำในภาพยนตร์เรื่อง The Sound of Music ซึ่งเป็นภาพยนตร์เพลงที่ประสบความสำเร็จสูงสุด ขับร้องเพลงของริชาร์ด ร็อดเจอร์ส และออสการ์ แฮมเมอร์สไตน์ที่ 2 เธอได้รับการเสนอเข้าชิงรางวัลออสการ์ และได้รับรางวัลลูกโลกทองคำ

ในปี 2540 จูลี่ แอนดริวส ต้องงดการแสดงชั่วคราว เพื่อผ่าตัดเนื้องอกที่กล่องเสียง หลังการผ่าตัด เธอยังคงรับงานแสดงภาพยนตร์ รับบทใน The Princess Diaries และภาพยนตร์ภาคต่อ The Princess Diaries 2: The Royal Engagement และพากย์เสียงในภาพยนตร์ Shrek ภาค 2 และ 3




>> โปรดติดตาม 

Tuesday, January 25, 2011

แมรี่ ฮอพกิ้น Mary Hopkin -Those were the Days

แมรี่ ฮอพกิ้น Those were The Days




แมรี่ ฮอพกิ้น (เกิดเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2493) เพลงช่วงแรกใช้ชื่ออีกชื่อหนึ่งว่า "Mary Visconti" เป็นนักร้องเพลงโฟล์คชาวเวลส์ ที่รู้จักกันดีในสหราชอาณาจักรในเพลงยอดนิยมอันดับหนึ่งที่ชื่อ "Those were The Days"

ในวัยเยาว์




แมรี่ เกิดใน Pontardawe  แคว้นเวลส์ จากครอบครัวชาวเวลส์ ซึ่งบิดาของเธอทำงานเป็นเจ้าหน้าที่อาคารสงเคราะห์ ในวัยเด็กเธอเรียนร้องเพลงเป็นประจำทุกสัปดาห์และเริ่มต้นการทำงานทางด้านดนตรีของเธอด้วยการเป็นนักร้องร่วมกับกลุ่มชาวบ้านในละแวกท้องถิ่น ในชื่อวง "Selby Set and Mary"  เธอปล่อยงานเพลงอัลบั้มในภาษาเวลส์ที่สังกัดค่ายเพลง "Cambrian" ที่ซึ่งอยู่ในบ้านเกิดเมืองนอนของเธอเองก่อนที่จะเซ็นสัญญาย้ายมาสังกัดกับค่ายเพลงของ The Beatles ที่ชื่อ "Apple Records"




การเข้าสังกัดกับค่ายเพลงของ The Beatles นั้น เกิดจากการชักชวนของ นางแบบที่มีชื่อเสียงในยุคนั้นนามว่า "Twiggy" ที่ได้มีโอกาสเห็นเธอที่ชนะการประกวดแสดงความสามารถในรายการโทรทัศน์รายการหนึ่งที่ชื่อว่า Opportunity Knocks  จึงได้พาเธอมาแนะนำให้รู้จักกับ Paul McCartney  จนกระทั่งเธอได้กลายมาเป็นหนึ่งในศิลปินรุ่นแรกๆที่ บันทึกเพลงในค่ายเพลงของ The Beatles ที่ชื่อ Apple Records นี้


การเปิดตัวครั้งแรกของเธอด้วยซิงเกิ้ลเพลง "Those were The Days" ซึ่งอำนวยการผลิต โดย Paul McCartney ได้ออกจัดจำหน่ายในสหราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2509 แม้จะมีการแข่งขันอย่างรุนแรงจากศิลปินต่างๆมากมายในขณะนั้น หรือแม้แต่นักร้องนามว่า "Sandie Shaw" จะร้องเพลงนี้เช่นกัน แต่เป็นในแบบฉบับของเธอ ภายในปีเดียวกันนั้นก็ตามแต่ของแมรี่กลับได้อันดับที่หนึ่งในลำดับเพลงยอดนิยมของสหราชอาณาจักรใน Singles Chart และอันดับที่ 2 ในสหรัฐอเมริกา Billboard Hot 100 สร้างยอดขายได้มากกว่าหนึ่งล้านห้าแสนแผ่นเฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกาและได้รับรางวัล แผ่นทองคำ โดย RIAA  จากยอดขายทั่วโลกที่สูงมากถึงแปดล้านชุด


>> ยังมีต่อ โปรดติดตาม