อิงเกิ้ลเบิร์ต ฮัมเพอร์ดิงก์ค Release Me
อิงเกิ้ลเบิร์ต ฮัมเพอร์ดิงก์ค (เกิดเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม ปี พ.ศ. 2479 นามเดิมเมื่อตอนเกิดคือ Arnold George Dorsey) เป็นนักร้องชาวอังกฤษที่มีชื่อเสียงในระดับนานาชาติในช่วงทศวรรษที่ 2503 และ 2513 หลังจากที่เปลี่ยนเอาชื่อของนักแต่งเพลงโอเปร่าที่มีชื่อเสียงชาวเยอรมัน Engelbert Humperdinck มาเป็นชื่อทางเวทีของเขาเอง
< |
ชื่อเดิม Arnold Dorsey, Humperdinck เกิดที่ Madras ประเทศอินเดีย บิดาชื่อ Mervyn Dorsey เป็นเจ้าหน้าที่เพื่อกองทัพอังกฤษประจำอินเดียและมารดาชื่อ Olive ทั้งคู่เป็นชาวอังกฤษ เมื่ออายุได้ 10 ขวบ ครอบครัวได้ย้ายกลับไป Leicester ประเทศอังกฤษ และหนึ่งปีให้หลังเขาเริ่มสนใจในดนตรีและหันมาเรียนแซกโซโฟน
เริ่มต้นอาชีพการทำงานโดยเป็นวิศวกรฝึกงาน และโดยช่วงต้นทศวรรษ 2493 ยังยึดอาชีพเล่นดนตรีตามไนท์คลับหาเลี้ยงชีพ แต่เชื่อกันว่าเขายังไม่ร้องเพลงจนเมื่ออายุได้ 17 ปีแล้ว และพวกเพื่อนๆ พยายามชักชวนเขาเข้าประกวดร้องเพลงในผับ ความคลั่งไคล้ที่มีต่อนักร้องนาม Jerry Lewis นั้นทำให้เพื่อน ๆ ตั้งสมญานามเขาว่า "Gerry Dorsey" ซึ่งเป็นชื่อในการร้องเพลงในช่วงเกือบสิบปีแรกของเขาต่อมา
ถึงแม้การร้องเพลงเป็นอาชีพ จะมาสะดุดลงกลางคันจากที่ต้องไปเป็นทหารรับใช้ชาติเพื่อกองทัพอังกฤษ สังกัดกองกำลังเพื่อการใช้สัญญาณทางทหาร เมื่อกลางปี 2493 แต่เขาก็ยังได้รับโอกาสบันทึกเพลงเป็นครั้งแรกในปี 2501 ในสังกัด Decca Records หลังพ้นเกณฑ์ เพลงซิงเกิ้ลแรก "I'll Never Fall in Love Again" นั้นไม่ได้รับความนิยม กระนั้นเพลงในระยะหลังภายใต้ต้นสังกัดเดียวกัน จะให้ผลลัพธ์ที่ต่างกันออกไปจากผลงานเพลงที่ออกสู่สาธารณะเพลงนี้ก็ตาม
อิงเกิ้ลเบิร์ตยังคงใช้ชิวิตในการเล่นดนตรีตามไนท์คลับอยู่ จวบจนถึงปี 2504 เมื่อเขาป่วยถูกวัณโรคเล่นงาน ต้องรักษาตัวจนหายดีและกลับมาเล่นดนตรีที่ไนท์คลับอีก แต่ไม่ได้รับความสำเร็จ อย่างไรก็ดี ในปี 2508 เขามีโอกาสร่วมทีมกับ Gordon Mills ซึ่งเป็นผู้ควบคุมการแสดงทางดนตรี และเป็นผู้จัดการให้กับศิลปิน ชื่อ Tom Jones
อิงเกิ้ลเบิร์ต มาประสบความสำเร็จจริงๆในราวเดือนกรกฎาคม 2509 เมื่อเขาและนักร้องอีก 4 คนเป็นตัวแทนของสหราชอาณาจักรไปร้องเพลงในการประกวดแข่งขันประจำปีที่ประเทศเบลเยี่ยม และในเดือนตุลาคมปีเดียวกันนั้นยังขึ้นเวทีที่เมือง Mechelen ประเทศเนเธอร์แลนด์ ทำให้ในห้วงเวลานั้น เขาเริ่มมีชื่อเสียงมากขี้น เพลง "Release Me" ขึ้นสู่อันดับหนึ่งในประเทศเบลเยี่ยม ภายหลังออกจำหน่ายเพียงหกเดือน รายการโทรทัศน์ของประเทศเบลเยี่ยมมีการจัดทำวิดิโอเพลงของเขาขึ้นที่อ่าว Zeebrugge
งานเพลงและความสำเร็จ
Gordon Mills เป็นผู้แนะนำให้เขาเปลี่ยนชื่อเพื่อช่วยดึงดุดความสนใจผู้ฟัง หลังจากที่พบว่าเขาดิ้นรนอยู่ในวงการหลายปีพอสมควรแล้ว จนมาได้ชื่อ อิงเกิ้ลเบิร์ต ฮัมเพอร์ดิงก์ค ซึ่งเป็นชื่อของนักแต่งเพลงโอเปร่าในเวทีเรื่อง Hansel and Gretel และยังจัดการเจรจาเงื่อนไขกับต้นสังกัดให้เขาใหม่ ต้นปี 2510 การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนั้นส่งผลดีให้เขาในทันที เมื่อเขามาในคราบใหม่ออกเพลง "Release Me" ในแนวเพลง ballad นุ่มนวล ผสานกับการมีเสียงร้องประสานเสียงเป็นฉากหลัง นำเพลงของเขาไต่ขึ้นสู่อันดับยอดนิยมหนึ่งในสิบทั่วชายฝั่งแอตแลนติกของสหรัฐอเมริกาและยังขึ้นสูงสุดถึงอันดับที่หนึ่งในสหราชอาณาจักร และผลักให้เพลง "Strawberry Fields Forever" ของ "The Beatles" ในขณะนั้น ไม่สามารถขึ้นสู่อันดับสูงได้ เพลง "Release Me" คงอยูในอันดับเพลงซิงเกิ้ลยอดนิยม 50 ได้ยาวนานถึง 56 สัปดาห์
แม้แต่ในปีของอิทธิพลเพลงร็อค อาจกล่าวได้ว่าเพลง "Release Me" อาจจะไม่ประสบความสำเร็จอย่างน่าประหลาดใจเช่นนี้ หากไม่เพราะ Frank Sinatra นำเพลงเขาเข้าสู่ความนิยมปีก่อนหน้า และ Tom Jones นำเพลงตามมาด้วยความสำเร็จ ทั้งคู่ทำให้เกิดพื้นที่ใหม่สำหรับนักร้องแนวเพลงนี้ เพลง "Release Me" คาดว่าจำหน่ายได้มากกว่า 85,000 แผ่นต่อวันในช่วงที่ได้รับความนิยม และยังคงเป็นเช่นนั้นอีกหลายปีต่อมา ซึ่งเชื่อกันว่า เป็นเพลงที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดของเขา
สไตล์ของอิงเกิ้ลเบิร์ตที่เป็นลักษณะง่ายๆสบายๆ แต่สง่างามดูดี จะเป็นตรงกันข้ามกับ Tom Jones ซึ่งดูมีพลังเร่าร้อน และดึงดูดทางเพศ ทำให้มีผู้ชื่นชอบอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะพวกผู้หญิง เพลงที่ประสบความสำเร็จตามมา คือ "There Goes My Everything" และ "The Last Waltz"
"The Spanish Eyes"
"Quando, Quando, Quando"
"A Man Without Love"
"Am I That Easy to Forget"
"Love Me With All of Your Heart"
"Ten Guitars"
"Too Beautiful to Last"
"A Time for Us"
"Eternally"
No comments:
Post a Comment