Stars Classic

Wednesday, February 16, 2011

นีล ซิดาก้า Neil Sedaka - Breaking Up is Hard to Do

ฟังผลงานเพลงยอดนิยมของเขาได้จาก link ข้างล่าง
นีล ซิดาก้า (เกิดเมื่อวันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2482) เป็นทั้งนักร้องเพลงพ๊อพ นักเปียโนและนักแต่งเพลงชาวอเมริกัน เส้นทางอาชีพของเขาทางด้านการร้องเพลงยาวนานกว่า 50 ปี และก็เหมือนศิลปินคนอื่นในห้วงเวลาเดียวกันนั้นที่มีความสามารถนอกเหนือจากพรสวรรค์ทางด้านการร้องเพลง ที่เขาได้แต่งเพลงจำนวนมากในงานของตัวเองและคนอื่น ๆ มักจะทำงานร่วมกับ lyricists Howard Greenfield และ ศิลปิน Phil Cody


ในวัยเยาว์

นีลเกิดในบรูคลิน มลรัฐนิวยอร์ค บิดา, Mac Sedaka, เป็นชาวยิวเชื้อสายตุรกีอพยพ มีอาชีพขับแท็กซี่รับจ้าง ("Sedaka"เป็นคำที่แปลงมาจาก tzedaka -- ภาษายิวฮิบรูแปลว่าการกุศล) มารดาคือนาง Eleanor (Appel) ชาวยิวเชื้อสาย โปแลนด์ -รัสเซีย อาศัยในอพาร์ทเมนท์ที่ไบรตันบีช เมืองบรูคลิน

เริ่มฉายแววถนัดทางด้านดนตรีเมื่อเรียนอยู่ในชั้นเรียนประสานเสียงระดับที่สองและเมื่อครูของเขาเขียนโน๊ตส่งมาที่บ้านแนะนำให้เขาใช้เวลาเรียนเปียโน มารดาของเขาจึงขวนขวายทำงานรับจ้างพิเศษในห้างสรรพสินค้า อับราฮัมแอนด์เสตราส์ เป็นเวลากว่าหกเดือนเพื่อนำไปเป็นค่าเปียโนเก่ามือสอง ซึ่งเขาก็เล่นเปียโนได้ดีจนในปี 2490 เขาไปแข่งขันทดสอบความสามารถทางด้านเปียโนที่โรงเรียนเตรียมความพร้อมทางด้านดนตรีสำหรับเด็ก Juilliard จนชนะได้ทุนการเรียนเปียโน ซึ่งเขาต้องเข้าเรียนทุกวันเสาร์ นีลชอบขับร้องเพลงพ๊อพมาก จนวันหนึ่ง ขณะอายุเพียง 13 ปี เพื่อนบ้านได้ยินที่เขาร้องจึงพาเขามาให้รู้จักกับลูกชายของเธอเองที่ยังอยู่ในช่วงวัยรุ่นอายุ 16 ปี ที่ชื่อว่า Howard Greenfield บุคคลผู้ซึ่งต่อมาเป็นทั้งนักกวีและผู้แต่งเนื้อร้องเพลง ทั้งสองเริ่มเป็นเพื่อนกันช่วยแต่งเพลงด้วยกันในเวลาต่อมา

เส้นทางสู่ดวงดาว

หลังจากจบจากโรงเรียนมัธยมปลายลินคอล์น นีลและเพื่อนร่วมชั้นได้ก่อตั้งวงขึ้นมาชื่อวงว่า The Tokens วงดนตรีมีชื่อเสียงบ้างในระดับท้องถิ่น อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการเปลี่ยนตัวสมาชิกวงสองสามคนในปี 2504 วง The Tokens ก็สามารถนำเพลงขึ้นสู่อันดับหนึ่งของเพลงยอดนิยมในสหรัฐด้วยเพลง "The Lion Sleeps Tonight" ในเวลาเดียวกันนั้น นีลหนุ่มน้อยก็มีโอกาสได้เปิดตัวเพลงเดี่ยวออกมา 3 เพลง นั่นคือ "Laura Lee", "Ring-a-Rockin'" และ "Oh, Delilah!" แต่ก็ล้มเหลวไม่เป็นท่า (แม้ว่าเพลง "Ring-a-Rockin" ทำให้เขาได้ออกในรายการ American Bandstand ของ Dick Clark ได้ก็ตาม) แต่ทั้งนี้ หลายคนก็เริ่มเห็นประกายความสามารถในการเป็นนักร้องเดี่ยวของเขา จน ค่ายเพลง RCA Victor ตกลงเซ็นสัญญาการทำเพลงกับเขา

เพลงซิงเกิ้ลแรกที่เปิดตัวกับ RCA คือเพลง Diary ได้ขึ้นสู่อันดับเพลงยอดนิยมในลำดับที่ 14 ตามมาด้วยซิ้งเกิ้ลที่สองและที่สามซึ่งทำได้ไม่ดีนัก เมื่อเขาผิดหวังจากผลงานครั้งถัดมานี้ของเขา เขาตัดสินใจไปซื้อเพลงฮิตยอดนิยมต่างๆมาฟังซ้ำแล้วซ้ำเล่า พยายามเรียนรู้ในเรื่องการผสมผสานทางด้านตัวโน๊ตดนตรี และเนื้อร้อง เพื่อค้นหาว่าทำไมถึงได้รับความนิยมนัก เมื่อทำอย่างนี้แล้ว เขาก็เริ่มถักทองานเพลงของเขาขึ้นมาใหม่ จนได้เพลง "Oh! Carol" เนื้อเพลงอุทิศให้กับอดีตคนรักเก่าของเขาเองและต่อมาเธอยังเป็นศิลปินที่มีชื่อเสียงด้วย เธอคือ 'Carol King' เพลงขึ้นสู่อันดับที่ 9 (Carol King ออกเพลงโต้ตอบ "Oh! Neil" ออกมาในปีเดียวกัน)

นีลเริ่มมีเพลงนิยมตามมาอีกหลายต่อหลายเพลง ในช่วงปี 2503 - 2505 ที่เป็นที่รู้จักกันดี ได้แก่ "Stairway to Heaven" (อันดับที่ 9, ปี 2503), "You Mean Everything to Me" (อันดับที่ 17, ปี 2503), "Calendar Girl" (อันดับที่ 4, ปี 2504), "Happy Birthday Sweet Sixteen" (อันดับที่ 6, ปี 2504), เพลงประจำตัวของเขาต่อมา "Breaking Up is Hard to Do" (อันดับที่ 1, ปี 2505), "Next Door to an Angel" (อันดับที่ 5, ปี 2505), "Laughter in the Rain"






No comments: